แมงดาทะเลเป็นสัตว์ทะเลที่ไม่เป็นอันตรายและดึกดำบรรพ์ มีบทบาทสำคัญในธรรมชาติ โดยสามารถเป็นอาหารของเต่า ฉลาม และนกชายฝั่งได้เมื่อค้นพบการทำงานของเลือดสีน้ำเงิน แมงดาทะเลก็กลายเป็นเครื่องมือช่วยชีวิตชนิดใหม่
ในปี 1970 นักวิทยาศาสตร์พบว่าเลือดสีน้ำเงินของแมงดาทะเลจะจับตัวเป็นก้อนเมื่อสัมผัสกับแบคทีเรีย E. coliเนื่องจากอะมีโบไซต์ในเลือดสีน้ำเงินของแมงดาทะเลสามารถทำปฏิกิริยากับเอนโดทอกซิน สารพิษที่ปล่อยออกมาจากเชื้ออีโคไล และแบคทีเรียแกรมลบอื่นๆ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงในมนุษย์ที่สัมผัสได้ เช่น มีไข้ หรือโรคหลอดเลือดสมองแตก
ทำไมเลือดสีน้ำเงินของแมงดาทะเลจึงทำหน้าที่เช่นนี้?อาจเป็นผลมาจากวิวัฒนาการสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของแมงดาทะเลเต็มไปด้วยแบคทีเรีย และแมงดาทะเลต้องเผชิญกับภัยคุกคามจากการติดเชื้ออย่างต่อเนื่องอะมีโบไซต์ในเลือดสีน้ำเงินของปูเกือกม้ามีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับการติดเชื้อ เนื่องจากแอมโบไซต์นั้น เลือดสีน้ำเงินของมันสามารถจับและจับตัวเป็นก้อนรอบๆ เชื้อรา ไวรัส และเอนโดทอกซินจากแบคทีเรียได้ทันทีระบบภูมิคุ้มกันของแมงดาทะเลทำให้เลือดแมงดาทะเลมีประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมชีวการแพทย์ของเราจริงๆ
เนื่องจากความสามารถในการจับตัวและการแข็งตัวของมัน เลือดสีน้ำเงินของแมงดาทะเลจึงถูกใช้เพื่อผลิตลิมูลัส อะมีโบไซต์ ไลเซต ซึ่งเป็นแอมโบไซต์ไลเซตชนิดไลโอฟิไลซ์และพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ผลิตด้วยแอมโบไซต์จากแมงดาทะเลด้วยวิธีการต่างๆปัจจุบันมีเทคนิคที่ใช้ในการตรวจหาเอนโดทอกซินจากแบคทีเรียโดยใช้ไลโอฟิไลซ์แอมโบไซต์ไลเอต 3 วิธี ได้แก่ เทคนิคเจลก้อน เทคนิคความขุ่น และเทคนิคโครโมเจนิกXiamen Bioendo Technology Co., Ltd. ผู้ผลิตแอมโบไซต์ไลเซตแบบไลโอฟิไลซ์ด้วยเทคนิคทั้งสามนี้
เวลาโพสต์: Feb-28-2019